เหวี่ยงวีน “ไม่ใช่” ไบโพลาร์ สังเกตอาการแล้วรีบรักษา

เหวี่ยงวีน “ไม่ใช่” ไบโพลาร์

ไบโพลาร์ เป็นอาการทางการแพทย์ไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่นิสัย ไม่ใช่ตัวตนของผู้ป่วย สามารถควบคุมได้ด้วยการรักษาทางการแพทย์ การยอมรับจากครอบครัว เพื่อน และตัวของผู้ป่วยเอง

 

รู้หรือไม่ ไบโพลาร์ ไม่ได้มีประเภทเดียว

1 Bipolar I

ไบโพลาร์ประเภทที่ 1 สามารถสังเกตได้จากผู้ที่มีอาการเมเนีย สลับกับช่วงที่มีอาการซึมเศร้าหรือบางรายอาจมีอาการเมเนียเพียงอย่างเดียวก็ได้

อาการเมเนีย (Mania) คือ ภาวะอารมณ์ผิดปกติ ซึ่งเป็นความผิดปกติทางด้านอารมณ์ที่ผู้ป่วยมักรู้สึกมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา มีพลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ สูงมาก อารมณ์ขึ้นสุดเกือบตลอดทั้งวัน เป็นติดต่อกันอย่างน้อยตลอด 1 สัปดาห์

อาการที่อาจเกิดขึ้น

  1. มั่นใจเกินจริง คิดว่าตัวเองทำได้ทุกสิ่งไม่มีอะไรมาหยุดยั้งได้
  2. พูดมากผิดปกติ พูดไม่หยุด
  3. หยุดนิ่งไม่ได้ทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม การงาน การเรียน หรือด้านเพศ
  4. ไม่ต้องการพักผ่อน ความต้องการนอนน้อยลง
  5. ความคิดแล่น คิดหลายๆ เรื่องพร้อมกัน
  6. สมาธิหลุดง่าย ว่อกแว่กง่าย
  7. มีพฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น เช่น ช็อปปิ้งจนติดหนี้สิน ลงทุนธุรกิจแบบไม่คิด มีเพศสัมพันธ์แบบเสี่ยงๆ

วิธีการสังเกตอาการ

ต้องมีอาการอย่างน้อย 3 อย่างติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ มีความผิดปกติทางด้านอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง จนทำให้มีความบกพร่องในด้านการเข้าสังคม การเรียน การทำงานแย่ลง แบบนี้แสดงว่าเป็นช่วงเมเนีย หรือ ไบโพลาร์ไทป์วัน

 

หวี่ยงวีน "ไม่ใช่" ไบโพลาร์

2 Bipolar II

ไบโพลาร์ประเภทที่ 2 สามารถสังเกตได้จากผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้าสลับกับช่วงอาการไฮโปเมเนีย

อาการไฮโปเมเนีย (Hypomania) คล้ายกับอาการเมเนีย แต่จะมีอารมณ์ขึ้นแค่ปานกลาง รุนแรงน้อยกว่า กินระยะเวลาสั้นกว่า จากหนึ่งสัปดาห์อาจเหลือ 3-4 วัน

อาการอารมณ์ขึ้นนั้น อาจกลับมาเป็นปกติได้เป็นเวลานานเป็นเดือนๆ แล้วสลับกับอารมรณ์เศร้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน จากนั้นอาการไฮโปเมเนียก็จะกลับมาใหม่

อาการช่วงอารมณ์ดิ่ง 

ความสนใจในความชอบเดิมน้อยลง อาการอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไป รู้สึกไร้ค่า รู้สึกผิด นอนมากขึ้นหรือนอนน้อยลง พักผ่อนไม่เพียงพอรู้สึกตื้อๆ ช้าๆ ความคิดเวียนวนกับการฆ่าตัวตาย

 

หวี่ยงวีน "ไม่ใช่" ไบโพลาร์

 

คนส่วนใหญ่คิดว่า ไบโพลาร์ ไทป์วันต้องมีครบ 2 ขั้วตามชื่อ แต่จริงๆแล้วการมีแค่ช่วงเมเนียเดียวก็วินิจฉัยได้แล้ว แต่ส่วนมากเมื่อหายจากเมเนีย ก็อาจสลับเป็นระยะซึมเศร้าต่อหรืออาจจะลดระดับลงมาเป็นระยะไฮโปเมเนียได้

ไบโพลาร์ สามารถรักษาหายได้ด้วยยาหรือการรักษาด้วยการบำบัด ขอเพียงครอบครัว เพื่อนและตัวผู้ป่วยเปิดใจและยอมรับ

 

การรักษาผู้ป่วยที่เป็นไบโพลาร์

การรักษาด้วยยา

การรักษาในปัจจุบันนั้นสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้ โดยผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์และปรับยาตามความเหมาะสม

นอกจากการรักษาด้วยยาแล้วการรักษาโดยใช้ไฟฟ้าที่อยู่ในการดูแลควบคุมของแพทย์ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือก

การรักษาด้วยการบำบัด

ฝึกออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดหรือแอลกอฮอล์ การทำจิตบำบัดเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับตัวเอง การทำกิจกรรมบำบัดอื่นๆ ทีมีประโยชน์ เช่น ดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด และการฝึกโยคะ

อย่าเอาคำว่าไบโพลาร์มาด่า แซวกันเพราะจะทำให้คนที่ป่วยหรือสงสัยว่าป่วยไม่กล้าไปรักษาเพราะกลัวถูกตีตราว่านิสัยไม่ดีกลายเป็นว่าเราทำร้ายผู้ป่วยทางอ้อม

 

บทความเพิมเติม

 

 

ที่มา : กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll to Top